เบื้องหลังถ่ายภาพที่อำเภอกัลยาณิวัฒนา
ทีมงานสุดปรารถนาสตูดิโอได้เดินทาง ไปยังอำเภอกัลยณิวัฒนา หรือวัดจันทร์ เมื่อวันที่ 3-5 กันยายน 53 เพื่อถ่ายทำภาพประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ให้กับบริษัท Thailand Great Tour
ทีมงานสุดปรารถนาสตูดิโอได้เดินทาง ไปยังอำเภอกัลยณิวัฒนา หรือวัดจันทร์ เมื่อวันที่ 3-5 กันยายน 53 เพื่อถ่ายทำภาพประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ให้กับบริษัท Thailand Great Tour
ผลงานที่นำมาโชว์เป็นเพียงตัวอย่างบางโครงการ เพราะในช่วงต้นๆ ไม่เคยเก็บผลงานงานไว้เลย ลูกค้าส่วนมากก็เป็นลูกค้าประจำ เรากำลังขยายการตลาดมากขึ้น เรามีทีมงานบริการ ผลิต ออกแบบปก ปั้มแผ่น
สุดปรารถนา สตูดิโอเป็นฝ่ายผลิตสื่อการสอนนวดหิน จากประเทศออสเตรเลีย โดย Mr. Greg Morling อาจารย์สอนนวดหินจากสถาบัน นวดหินแห่งประเทสออสเตรเลีย โดยมีนางแบบสาวสายมาจากประเทศฝรั่งเศส
เชียงของ – หลวงพะบาง – เชียงของ
4 วัน 3 คืน
ล่องเรือลำน้ำโขง ถ่ายภาพเมืองหลวงพะบาง
• โปรแกรมการเดินทาง 16-19 , 23-26 กันยายน 53
วันที่ 1 เชียงของ – หลวงพระบาง
06:00 น. คณะพร้อมกันและรับประทานอาหารเช้าที่ ห้องอาหารโรงแรม ริมโขงริเวอร์ รีสอร์ท หรือเทียบเท่าหลังรับประทานอาหารนำคณะลงเรือเล็กที่ท่าเรือ อ.เชียงของ เพื่อข้ามไปยังเมืองห้วยทราย ประเทศลาวเพื่อเปลี่ยนเป็นเรือใหญ่ที่ ท่าเรือห้วยทราย นั่งเรือ จากเมืองห้วยทรายล่องลำน้ำโขงลงใต้เข้าสู่ บ้านปากทา จุดเชื่อมบรรจบ ระหว่าง ลำน้ำโขง และน้ำทาที่ไหลลงจากเมือง หลวงน้ำทา จุดนี้ ชาวเรือเรียกว่า บ้านท่าด่าน เพราะมีจุดตรวจเช็คเรือ ที่แล่นขึ้น – ลง ในลำน้ำโขงตอนบน ของประเทศลาว
เที่ยง เดินทางถึงด่านตรวจเมืองปากแบง และเที่ยวชมธรรมชาติของเมืองพร้อมรับประทาน อาหารกลางวัน และของว่างในเรือ สัมผัสทัศนียภาพของ ประเทศลาว สองฝั่งโขง พร้อมร่วมกิจกรรมในเรือ ตามอัธยาศัย
เย็น เดินทางถึง เมืองหลวงพระบาง เข้าพักที่โรงแรมเมืองชัว ในตัวเมืองหลวงพระบาง ค่ำ รับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย หลังอาหารเชิญท่านเดินชม ตลาดค่ำ (Night market ) เป็นถนนคนเดินตอนเย็นที่ชาวลาวสูง ลาวเทิ่ง ลาวม้ง แม้แต่ชาวหลวงพะบางเองก็จะนำสินค้าพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นผ้าปัก ผ้าทอมือ ผ้านุ่ง ผ้าซิ้น เครื่องเงิน ฯลฯ มากมายตั้งแต่หน้า พระราชวังเก่า จนสุดหัวถนน
วันที่ 2 เที่ยวชมเมืองหลวงพระบาง
เช้า เชิญท่านร่วม ตักบาตรข้าวเหนียว ในทุกๆ เช้าพระสงฆ์ และ สามเณรจากวัดต่างๆ จะเดินออกบิณฑบาต เป็นแถวอย่างมีระเบียบนับร้อยๆรูป โดยการตักบาตรนี้จะรับแต่ข้าวเหนียวสีขาวเท่านั้น ส่วนกับข้าว ไม่ต้องใส่ในบาตร ( ชาวบ้านจะนำไปถวายที่วัดเอง ) ทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ เสร็จแล้วนั่งรถไปเที่ยวชม
ตลาดเช้า เมืองหลวงพะบาง รับประทานอาหารเช้า และเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวตลอดวัน..
วัดวิชุน เจ้าชีวิตวิชุนราชโปรด สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1503 เป็นวัดที่แปลก จากวัดอื่นๆในหลวงพะบาง ตรงเจดีย์พระประทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ พระธาตุเจดีย์รูปโค้งที่คนลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม ตามลักษณะที่คล้าย แตงโมผ่าครึ่ง ที่พระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1514 ช่วงปี ค.ศ.1914 พระธาตุหมากโมได้พังทลายลงบางส่วน เจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์ และชาวหลวงพระบางจึงร่วมกันบูรณะพระธาตุแห่งนี้ จากการซ่อมแซมครั้งนั้นได้พบวัตถุมีค่ามากมาย เช่น พระพุทธรูปทองคำ เงิน และทองสำริด พระพุทธรูปแกะสลักทองคำจากแก้ว และ อัญมณี รวมทั้งวัตถุทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และ ศิลปะวัฒนธรรมในช่วงศตวรรษที่ 15 – 16 อีกจำนวนมาก
วัดเชียงทอง ( wat xieng thong ) ซึ่งเป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างในรัชสมัย
สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนหน้าที่จะย้ายเมืองหลวงไปนครเวียงจันทน์ วัดนี้ได้รับการอุปถัมภ์จาก เจ้ามหาชีวิตมหาสว่างวงค์ และ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ชมพระอุโบสถหรือ สิม ที่มีหลังคาอ่อนโค้งและลาดต่ำซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เกือบจรดฐาน ชมช่อฟ้าหรือ พุทธสีมา 17 ช่อ ชมผนังด้านหลังอุโบสถที่ใช้กระจกสีตัดต่อกันเป็นรูปต้นทอง ชมหอพระไตรปิฏก ที่นำกระจกมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เล่าเรื่องนิทานพื้นบ้านบนพื้นสีชมพู ชม วิหารพระม่าน ด้านหลังอุโบสถ ที่ในวันขึ้นปีใหม่ลาวจะอัญเชิญให้ประชาชนสรงน้ำและกราบไหว้ นำท่านกราบ พระธาตุศรีสว่างวงค์ ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์
พระราชวังเจ้าชีวิต ( Royal Palace Museum ) สร้างขึ้นปี ค.ศ.1904 ก่อนที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์จะขึ้นครองราชย์สมบัติ 1 ปี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงแบบฝรั่งเศส แต่มีการผสมผสาน ระหว่างความเป็นฝรั่งเศสและลาว หลังคายอดปราสาทเป็นศิลปะลาวล้านช้าง ที่นี้จึงถูกเปรียบเปรยว่าเป็นลักษณะของฝรั่งสวมชฎา เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ ประทับอยู่ที่นี้จนสิ้นพระชนม์ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงถูกเปลี่ยนให้เป็น พิพิธภัณฑ์ วังเจ้ามหาชีวิต แทน ภายในประกอบด้วยห้องฟันธรรม จัดแสดงธรรม ไม้แกะสลักสกุลช่างหลวงพระบาง และพระพุทธรูปสำริดสกุลช่างลาวโบราณช่างศตวรรษที่ 17-19 ห้องที่สองด้านขวามือ เป็นห้องพิธี หรือห้องรับแขกมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวลาวโดยช่างฝีมือชาวฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1930 ห้องที่สามเป็นห้องท้องพระโรงประดับกระจกสีบนพื้นสีทอง เป็นห้องที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์วัฒนา เตรียมไว้เพื่อทำพิธีราชาภิเษกแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองเสียก่อน
ปัจจุบันเป็นที่จัดแสดงราชบัลลังก์ ไม้แกะสลักหุ้มทอง และเครื่องสูงทั้ง 5 ส่วนด้านหลังเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตฯ เครื่องใช้ไม้สอยเป็นแบบฝรั่งเรียบง่ายไม่หรูหราเตียงพระบรรทมเป็นไม้สักฝีมือช่าง ไทยในสยามในสมัยนั้น ภายนอกอาคารพระราชวังมีหอพระบางซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลัง “บายน” ปางประทานอภัย หรือปางห้ามสมุทร หล่อขึ้นจากทองคำถึง 90% นอกจากนี้ยังมี อนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญอยู่ด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน หลังรับประทานอาหารกลางวันเดินทางออกนอกเมืองประมาณ 45 นาที ไป น้ำตกกวางสี เป็นน้ำตกที่สวยงามมากเป็นน้ำตกหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น บางช่วงมีสายน้ำไหลตามผาคล้ายกับม่าน เนื่องจากเป็นน้ำตกหินปูนจึงทำให้น้ำของน้ำตกแห่งนี้ใสและมีสีเขียวมรกต
บ่าย นำท่านสู่ ผานม เป็นชุมชนไทลื้อที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่าว่าเจ้ามหาชีวิต แห่งล้านนา ได้สู่ขอเจ้านางผมหอม ธิดาของกษัตริย์ เมืองเชียงรุ้ง (สิบสองปันนา) มาเป็นพระชายา มีบริวารบ่าวไพร่ติดตามรับใช้เป็นข้าราชการในราชสำนักสืบต่อกันมา 10 ชั่วอายุคน จนมีจำนวนคนเพิ่มขึ้น เจ้ามหาชีวิตจึงมีรับสั่งให้ออกมาตั้งบ้านเรือนนอกราชวัง โดยแห่งแรกอยู่ที่บ้านเวียงนาคำและบ้านนาอ้อม ดอยบริเวณเชิงเขาภูว่าวนอกเมืองหลวงพระบาง และต่อมาได้อพยพมาอยู่ที่บ้านผานม แห่งนี้…..ปัจจุบันมีประชากรราว 200 หลังคาเรือน หญิงชาวไทลื้อที่เคยทอผ้าถวายเจ้ามหาชีวิตมาก่อน ให้บ้านผานมมีชื่อเสียงในเรื่องความประณีตและสวยงามมากจึงมีการตั้งศูนย์หัตถกรรมสินค้า รวมทั้งมีการสาธิตการทอผ้าด้วยทั้งแบบย่ามและกระเป๋าเสื้อต่างๆ หลังจากนั้นขึ้นสู่ ยอดเขาพูสี นมัสการ พระธาตุพูสี ยอดเขาพูสีมีความสูงประมาณ 150 เมตร ทางขึ้นเป็นบันไดจำนวน 328 ขั้นตลอดสองขางทางร่มรื่นไปด้วยดอกจำปา หรือ ลั่นทม ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาวที่จะออกดอกบานสะพรั่ง ในช่วงฤดูร้อน เชื่อแต่เดิมว่าบริเวณนี้เป็นเขตป่าศักดิ์สิทธิ์ ต่อ มามีฤษีขึ้นไปอาศัยอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกว่า ภูฤษี หรือ ภูสีมา สามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบางจากบนยอดเขาซึ่งนับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด อีกแห่งหนึ่งของ เมืองหลวงพะบาง
เย็น รับประทานอาหารเย็น จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวชมเมืองหลวงพะบาง ยามค่ำคืน ถนนคนเดิน หรือสัมผัส ชิวิตยามค่ำคืน ( Night Life) ของชาวหลวงพะบาง……..พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 หลวงพระบาง – ปากแบง
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เตรียมตัวเดินทางจาก หลวงพระบาง โดยเรือสู่ เมืองปากแบงบ้านซ่างไห ที่มีประวัติ การต้มเหล้ามานานกว่า 600 ปี ชุมชนริมแม่น้ำโขงแห่งนี้ มีอาชีพหลักในการต้มเหล้าว่ากันว่าเหล้าขาวของที่นี่รสชาติดีมาก พาท่านล่องเรือแม่น้ำโขง สู่ ถ้ำติ่ง ถ้ำติ่งเป็นถ้ำที่เกิดจาก ธรรมชาติ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ บ้านปากอู ในภูเขาลูกใหญ่ที่ตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำโขง ช่วงที่แม่น้ำอูไหลลงสู่แม่น้ำโขงชาวบ้านเรียกกันว่า ผานางแอ่น ถ้ำติ่งประกอบด้วยถ้ำ 2 แห่งได้แก่ ถ้ำติ่งเทิ่ง ( ถ้ำติ่งบน ) และ ถ้ำติ่งลุ่ม ( ถ้ำติ่งล่าง ) ในสมัยโบราณใช้เป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิณญาณผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง แต่เมื่อศาสนาพุทธเข้ามาแทนที่ ถ้ำติ่งจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางพุทธศาสนาของผู้แก่เฒ่า บอกว่าเจ้ามหาชีวิตแห่งหลวงพระบางต่างไปสักการะพระพุทธรูปในถ้ำเป็นประเพณีที่ขาดไม่ได้ โดยช่วงปีใหม่หลังเสร็จงานบุญที่หลวงพระบางแล้วประมาณ 2 – 3 วันพระองค์จะนำข้าราชบริพาร ชั้นผู้ใหญ่พระสงฆ์และประชาชนขึ้นไปสรงน้ำพระพุทธรูปที่ถ้ำติ่งบนก่อนจึงลงมาทำพิธีที่ถ้ำติ่งล่างภายในถ้ำมีการค้นพบพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15และ19 จำนวนหลายพันองค์ และมีบางส่วนที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17และ 20 ส่วนใหญ่ทำจากไม้บางส่วนทำจากหิน และโลหะนอกจากนี้ยังมีการพบพระพุทธรูป ที่ทำจากเงินและทองคำบุแต่ถูกลอกเอาเงินและทองคำออกไปหมดเหลือไว้แต่ ดินเผาที่เป็นแกนกลาง ชมวิถีชีวิตของชาวลาวสองฝั่งแม่น้ำโขงที่ใช้ได้เฉพาะเรือและแม่น้ำในการสัญจร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ ชมการ ร่อนทองคำ ในแม่น้ำโขง เดินทางถึง เมืองปากแบง นำสัมภาระ เข้าที่พัก
เย็น รับประทานอาหารเย็น…..เที่ยวชม บ้านปากแบง ( หมู่บ้านกลางหุบเขา )……พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 4 ปากแบง – ห้วยทราย – เชียงของ
เช้า เที่ยวชมตลาดเช้า รับประทานอาหารเช้า เดินทางออกจาก เมืองปากแบง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ บริการพิเศษให้แก่ท่านด้วย ภาพยนตร์ การร้องคาราโอเกะ หรือร่วมกิจกรรม ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ สองฝั่งน้ำโขง
เย็น เดินทางถึง ห้วยทราย และข้ามกลับเข้า อ.เชียงของ ด้วยความสวัสดิภาพ สนุกสนาน ปลอดภัย และประทับใจ
( ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เดินทาง กรุณาโทรสอบถามอีกครั้ง
• อัตราค่าบริการเพิ่มเติม รถรับ-ส่ง เชียงใหม่-เชียงของ-เชียงใหม่ เพิ่ม 1,000 บาท ต่อ ท่าน
***นอนเชียงของ ( ล่วงหน้า ) 1 คืน+อาหารเย็น เพิ่ม 650 บาท ต่อ ท่าน
หมายเหตุ -ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตาม จำนวนผู้เดินทาง และช่วงเวลา ของการเดินทาง
-รายการอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมแล้วแต่เวลาและสถานการณ์ทั้งนี้
บริษัทฯ จะรักษาผลประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ
• ราคานี้ รวม
• ราคานี้ ไม่รวม
• การสำรองที่นั่ง
• เอกสารเดินทาง
• การยกเลิกทัวร์
• การชำระเงิน โอน-paypal
อ่านสักนิด
การถ่ายภาพเป็นเรื่องของช่างภาพ ที่จะต้องถ่ายภาพออกมาให้ดีๆ ทุกคนบอกว่าเป็นช่างภาพมืออาชีพ แต่ทำไมคิดราคาไม่เท่ากัน บางคนคิด ถูก วันละ 500 บาทเอง บางคนคิดแพงหูฉี่ วันละเป็นหมื่น
เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับเนื้องานครับ ถ้าคุณจ้าง 500 เขาอาจแบกกล้องตัวเดียวมา แล้วก็กดแชะๆๆๆๆ แล้วก็เอารุปให้คุณไป หรือดีไปกว่านี้หน่อยเขาอาจจะ จัดองค์ประกอบดีขึ้นมาหน่อย แล้วก็กดแชะๆๆๆๆ
ที่จริงการถ่ายภาพระดับโปรมันไม่ได้กด แชะ ๆๆๆๆ จะต้องมีการวางแผน ศึกษาข้อมูลสินค้า ศึกษาข้อมูลลูกค้า ศึกษาคู่แข่ง คิดสร้างสรรค์ เขาเรียกว่า create แสง เงา ศิลป์ ทีมงาน ประสบการณ์ นั่นแหละครับคือตัวกำหนดราคา อย่าลืมว่าภาพถ่ายคือตัวแปล ให้สินค้าคุณขายดี หรือไม่
เรามาดูภาพถ่ายแบบมืออาชีพทำไมมันแพงจัง
อันที่จริงกว่าจะเป็นมืออาชีพได้ เขาได้ผ่านทุกอย่างที่เอ่ยถึงไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เหมือนกับนักสู้ที่ดีต้องผ่านสังเวียนหลายๆ ที่ หาอาจารย์หลายคน เพื่อความเจนจัด ผมลงทุนไปร่วมสมาคมถ่ายภาพที่อเมริกา และไปร่วมกิจกรรม อบรมถ่ายภาพที่นั่น เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ ผมว่ามันหมดเงินมากเหมือนเรียน ดร. เลยทีเดียว ครับ เห็นใจช่างภาพบ้างนะครับ เขาคือคนที่รักในศิลปะ และต้องการสร้างสรรค์ศิลปให้เกิดเป็นพลังในการส่งเสริมการขาย ให้กับคุณได้ บางคนเล่นขโมยภาพไปดื้อๆ เพื่อเอาไปสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง อย่างนี้เราถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ครับ
ผมไปอบรมถ่ายภาพที่อมเริกา ลาสเวกัส เพื่อลับคมกล้อง บรรยายโดย Bob Gruen, Rock and Roll Photographer ช่างภาพผู้สร้างชื่อให้กับ John Lenon , Rolling stone, Kiss, David Bowie และศิลปินดังอื่นๆ อีกมากมาย
บริการออกแบบการ์ดแต่งงานด้วยภาพถ่าย ของท่านเอง หรือถ้ายังไม่มีภาพมาถ่ายที่สตูดโอเราก็ได้
ตัวอย่างการ์ด และ การ์ดขอบคุณ เลือกได้ 1 แบบ สั่งทีละ 100 ใบ ราคาใบละ 10 บาท ขนาด 4×6 นิ้ว
***หรือถ้าไม่ชอบในรายการสามารรถให้ฝ่ายกราฟิกออกแบบให้ใหม่ก็ได้
อำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นอำเภอที่ได้ก่อตั้งเพิ่มขึ้นในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามพระราชกฤษฎีกาตั้ง
อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2552 ตรงกับวันที่ 18 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 โดย พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจาอุเบกขา ซึ่งได้แยกตำบลแจ่มหลวง ตำบลบ้านจันทร์ และตำบลแม่แดด อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ออกจากอำเภอดังกล่าว และรวมตั้งเป็นอำเภอกัลยาณิวัฒนา เพื่อประโยชน์แก่การปกครอง การให้บริการของรัฐ ความสะดวกของประชาชน และเพื่อส่งเสริมให้ท้องที่มีความเจริญยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
สุดปรารถนาสตูดิโอ เป็นผู้รับผิดชอโครงการ โดยได้จัดเป็น โครงการ “เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อชุมชน โดยชุมชน อำเภอกัลยาณิวัฒนา(วัดจันทร์ ) จังหวัดเชียงใหม่” ขึ้น ได้รับการสนับสนุนจาก ททท เชียงใหม่ และหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ดังนี้
ขอบขอพระคุณผู้สนับสนุน ทีมงาน และสื่อมวลชน ที่ให้การสนับสนุนให้งานนี้สำเร็จไปด้วยดี
สุดปรารถนา สตูดิโอได้เข้าร่วมจัดการอุปกรณ์ถ่ายทอดสด โอบี ที่โรมแรมอมันตรา ที่สามเหลี่ยมทองคำ
ในส่วนรับผิดชอบ เราได้จัดจอขนาด 200 น้วสองจอ แบบฉายจากทางด้านหลัง พร้อมวีดีโอ 3 ซีซีดี สองเครื่อง สวิสชิ่ง พร้อมทีมงานครบครัน
ทั้งนี้ทีมงานได้รับการติดต่อมาจากฝ่ายช่างของโรงแรม ที่รับผิดชอบเรื่องมีเดีย
ขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่ดูแลทีมงานอย่างอลอุ่น
ออกาไนซ์จาก สิงค์โปร ไปรับงานจาก โซนี่อีริคสันอินเดีย มาจัดที่เชียงใหม่ หวังเอาใจชาวอินเดียให้ประทับ โดยการเชิญศิลปินชื่อดังของอินเดียมาโชว์ ที่โรงแรม ดังเมืองเชียงใหม่
สุดปรารถนา สตูดิโอ รับมอบเป็นฝ่าย มีเดีย Production ทั้งภาพนิ่ง ถ่ายภาพหมู่ ถ่ายวีดีโอ และ งานโอบี ครบเซ็ท ในงานมีการเปิด โทรศัพท์ โซนี่อีริคสัน หลายรุ่น มีการเดินแบบ แฟชั่น โดยนางแบบชื่อดังจาก กทม ส่วนผู้ร่วมงานคือ ตัวแทนจำหน่ายโซนี่ จากอินเดีย กว่า 200 ราย
งานนี้เมื่อ พฤษภาคม 53 จ้า
Recent Comments